บันทึกการเรียน ครั้งที่ 4
วิชา การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางการศึกษาปฐมวัย
(Learning Experiences Management in Early Childhood Education) กลุ่มเรียน 102
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ จินตนา สุขสำราญ
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560
อาจารย์ให้นักศึกษาที่เขียนแผนเคลื่อนไหวและจังหวะ วันจันทร์ ออกมาสอนแผน
หน่วยไข่
หน่วยนม
ที่มาของหน่วยที่สอน มาจากไหน
ที่มาของหน่วยที่สอน มาจากสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเด็ก หรือสาระที่เด็กควรเรียนรู้ 4 สาระ เมื่อได้หัวข้อ หรือ หน่วยที่สอนแล้ว ให้นำมาแตกเนื้อหา เพื่อจะได้รู้ว่าเนื้อหาที่เราจะเรียนมีอะไรบ้าง ซึ่ง เนื้อหาต้องจัดให้ตรงตามพัฒนาการของเด็กด้วย
ออกแบบการจัดประสบการณ์
- ยึดหลักของทฤษฎีพัฒนาการ เช่น ทฤษฎีพัฒนาการของ Piaget
เพียเจต์ (Piaget) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ พัฒนาการทางด้านความคิดของเด็กว่ามีขั้นตอนหรือกระบวนการ อย่างไร ทฤษฎีของเพียเจต์ตั้งอยู่บนรากฐานของทั้งองค์ประกอบที่เป็นพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม เขาอธิบายว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญา ซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่าง ๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ ขั้นที่สูงกว่า สามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เพียเจต์เน้นความสำคัญของการเข้าใจธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กมากกว่าการ กระตุ้นเด็กให้มีพัฒนาการเร็วขึ้น เพียเจต์สรุปว่า พัฒนาการของเด็กสามารถอธิบายได้โดยลำดับระยะพัฒนาทางชีววิทยาที่คงที่ แสดงให้ปรากฏโดยปฏิสัมพันธ์ของเด็กกับสิ่งแวดล้อม
หลักพัฒนาการตามแนวคิดทฤษฎีนั้นเป็นอย่างไร
เพียเจต์ ให้ชื่อการพัฒนาการของเด็กวัยรุ่นหรือวัยมัธยมศึกษาว่า Formal Operation สามารถคิดได้แบบผู้ใหญ่ คือ
- คิดในสิ่งที่เป็นนามธรรมได้
- มีความสนใจในปรัชญาชีวิต ศาสนา อาชีพ
- สามารถใช้เหตุผลเป็นหลักในการตัดสินใจ
- สามารถคิดเหตุผลได้ทั้งอนุมานและอุปมาน
- มีหลักการในการให้เหตุผลของตนเอง เกี่ยวกับความยุติธรรม เสมอภาคและมีมนุษยธรรม
- ยึดหลักของทฤษฎีพัฒนาการ เช่น ทฤษฎีพัฒนาการของ Piaget
เพียเจต์ (Piaget) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ พัฒนาการทางด้านความคิดของเด็กว่ามีขั้นตอนหรือกระบวนการ อย่างไร ทฤษฎีของเพียเจต์ตั้งอยู่บนรากฐานของทั้งองค์ประกอบที่เป็นพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม เขาอธิบายว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญา ซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่าง ๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ ขั้นที่สูงกว่า สามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เพียเจต์เน้นความสำคัญของการเข้าใจธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กมากกว่าการ กระตุ้นเด็กให้มีพัฒนาการเร็วขึ้น เพียเจต์สรุปว่า พัฒนาการของเด็กสามารถอธิบายได้โดยลำดับระยะพัฒนาทางชีววิทยาที่คงที่ แสดงให้ปรากฏโดยปฏิสัมพันธ์ของเด็กกับสิ่งแวดล้อม
หลักพัฒนาการตามแนวคิดทฤษฎีนั้นเป็นอย่างไร
เพียเจต์ ให้ชื่อการพัฒนาการของเด็กวัยรุ่นหรือวัยมัธยมศึกษาว่า Formal Operation สามารถคิดได้แบบผู้ใหญ่ คือ
- คิดในสิ่งที่เป็นนามธรรมได้
- มีความสนใจในปรัชญาชีวิต ศาสนา อาชีพ
- สามารถใช้เหตุผลเป็นหลักในการตัดสินใจ
- สามารถคิดเหตุผลได้ทั้งอนุมานและอุปมาน
- มีหลักการในการให้เหตุผลของตนเอง เกี่ยวกับความยุติธรรม เสมอภาคและมีมนุษยธรรม
การเขียนแผนการจัดประสบการณ์
1. วัตถุประสงค์ คือ สิ่งที่ต้องการให้เกิดกับเด็ก
2. สาระที่เด็กควรเรียนรู้ คือ สิ่งที่เด็กเรียนรู้
3. แนวคิด คือ คอนเซ็ปของเรื่องที่จะสอน เช่น ไข่มีหลายชนิด เช่น ไข่ไก่ ไข่เป็ด ไข่นกกระทาเป็นต้น ไข่มีลักษณะที่กลมๆเรียวๆ มีหลายขนาดที่แตกต่างกัน ใหญ่ ปานกลาง และเล็ก เป็นต้น
4. ประสบการณ์สำคัญ คือ มาจากหลักสูตร เป็นพัฒนาการทั้ง4 ด้าน
5. รายวิชา (การบูรณาการ) เช่น
กรอบมาตรฐานคณิตศาสตร์
กรอบมาตรฐานวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างเช่น การใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
กลุ่มไข่
1) ปัญหา : จะทำยังไงให้ไข่กินได้ ?
2) ตั้งสมมติฐาน : เมื่อนำไข่ไปนึ่ง ทอด ต้ม (ใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง)ไข่จะสุกและสามารถกินได้
3) ทดลอง : ใช้ทักษะทางวิทยาศาสตร์ เช่น การสังเกต เมื่อนึ่ง ทอด ต้ม (ใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง) ไข่จะสุกจากของเหลวกลายเป็นของแข็ง สีเปลี่ยนจากไข่ขาวที่มีสีใสจะเปลี่ยนป็นสีขาว
4) สรุป : พอนึ่ง ทอด ต้ม (ใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง)แล้วไข่สุกสามารถกินได้
กลุ่มนม
1) ปัญหา : จะทำอย่างไรให้นมเป็นไอศกรีมได้?
2) ตั้งสมมติฐาน : เมื่อนำเกลือไปใส่ในน้ำแข็งนมจะเเข็งตัวได้
3) ทดลอง : ใช้ทักษะทางวิทยาศาสตร์ เช่น การสังเกต เมื่อนำเกลือไปใส่ในน้ำแข็ง นมจะเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นของแข็งและเป็นไอศกรีมได้
4) สรุป : นำเกลือไปใส่ในน้ำแข็งเกลือไปทำปฏิกิริยากับน้ำแข็งทำให้นมสามารถแข็งตัวได้
กลุ่มดิน
1) ปัญหา : เลือกดินแบบไหนมาปลูกพืช?
2) ตั้งสมมติฐาน : ถ้าเทน้ำลงไปในดินแต่ละชนิด ดินทราย น้ำไหลผ่านได้เร็ว ดินร่วน น้ำไหลผ่านได้ช้ากว่าดินทราย และ ดินเหนียว น้ำไหลผ่านได้ยาก
3) ทดลอง : เทน้ำผ่านดินแต่ละชนิด (หาพืชที่ต้องการน้ำปานกลาง)
4) สรุป : ดินที่เหมาะแก่การปลูกพืช คือ ดินร่วน เนื่องจากน้ำไหลผ่านได้ปานกลาง ไม่เร็วและช้ามากเกินไป
6. แผนที่เครือข่ายใยแมงมุม (Web กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม)
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้
**สิ่งแวดล้อมเป็นตัวกระตุ้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้**
วัตถุประสงค์
คือ สิ่งที่เด็กต้องทำ
สาระที่เด็กควรเรียนรู้
คือ เนื้อหาที่เราจะสอน
แนวคิด
คือ คอนเซ็ป ตัวสรุป
ประสบการ์ณสำคัญ
นำมาจากหนังสือหลักสูตร
กรอบพัฒนาการและกิจกรรม
เป็นเกณฑ์ในการประเมิน
การบูรณาการ
คือ การนำศาสตร์ต่างๆ มาผสมผสาน รวมกัน ผ่านกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม
1.คณิตศาสตร์
กรอบมาตรฐานคณิตศาสตร์
สาระที่ 1 จำนวนและการดำเนินการ
สาระที่ 2 การวัด
สาระที่ 3 เรขาคณิต
สาระที่ 4 พีชคณิต
สาระที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
สาระที่ 6 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
2. วิทยาศาสตร์
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ขั้นสังเกตและระบุปัญหา
คือ ระบุปัญหาเรื่องที่ต้องการศึกษา และกำหนดขอบข่ายของปัญหา
ขั้นตั้งสมมติฐาน
คือ การคิดคำตอบที่คาดหวังว่าควรจะเป็น หรือ คาดเดาคำตอบที่ได้รับ
ขั้นรวบรวมข้อมูล
คือ การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจสอบสมมติฐานที่ตั้งไว้ว่าถูกหรือผิด โดยมีหลักฐานยืนยันโดยการสังเกต หรือ การทดลอง
ขั้นสรุปผล
คือ การสรุปว่าจะปฏิเสธหรือยอมรับสมมติฐาน ตามหลักเหตุและผล เพื่อให้ได้คำตอบของปัญหา
ปัญหา - -> คำถาม - -> สมมติฐาน - -> ทดลอง - -> สรุป
ในหัวข้อวิทยาศาสตร์นี้ อาจารย์ให้คิดปัญหา และตั้งสมมติฐาน
กลุ่มดิน
ปัญหา : ดินชนิดไหน น้ำไหลผ่าน หรือ ดูดซึมน้ำได้ดีที่สุด และเหมาะกับการปลูกพืชมากที่สุด
สมมติฐาน : ดินทราย น้ำน่าจะไหลผ่านได้ดีที่สุด
ดินร่วน น้ำน่าจะไหลผ่านได้น้อยกว่าดินทราย
ดินเหนียว น้ำไหลผ่านได้ยากกว่าดินทราย และ ดินร่วน
3. สังคม
การทำงานเป็นกลุ่ม
การช่วยเหลือตนเอง
การเล่นและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
4. ศิลปะ
กิจกรรม ปั้น ฉีก ตัด ปะ
5. ภาษา
การฟัง
การพูด
ตัวอย่างการสอนเสริมประสบการณ์ หน่วยไข่
เพลง - -> ถามเนื้อหาในเพลง - -> เขียน ไข่ที่มีอยู่ในเพลง และ ไข่ที่มีนอกเนื้อในเพลง - -> เอาไข่ใส่กล่องให้เด็กล้วง - -> เอาออกมาให้ดู - -> ให้เด็กคาดคะเนว่ามีไข่ประมาณที่ใบ - -> นำมาวางเรียงกันเป็นแถว - -> นับตัวเลข - -> เขียนเลขฮินดู-อาร์บิก - -> แยกประเภท - -> นำออกมา - -> เรียงเป็นแถว - -> นับจำนวนให้เด็กตอบจากการดูด้วยตา - -> จับคู่ 1 ต่อ 1
การจัดสภาพแวดล้อม
การสภาพแวดล้อมที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ลงมือกระทำ เด็กจะได้เกิดการเรียนรู้ เช่น การจัดสภาพแวดล้อมแบบบูรณาการผสมผสานให้ศาสตร์ต่างๆรวมกัน (จนมองไม่ออก) เช่น การทำน้ำปั่น ที่มีส่วนผสมกลมกลืนกันจนแยกไม่ออกว่าอะไรคืออะไร
ประเมินผู้สอน : อาจารย์แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มีน้ำเสียงในการสอนที่น่าฟัง
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆให้ความร่วมมือในการเรียนการสอน
ประเมินตนเอง:แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจเรียน